INFO:

จากกรณีที่ทางเพจหาดใหญ่โฟกัสได้มีการลงข่าว ป้าใจสู้ ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ นำขนมปำมานั่งขายทุกเช้าหน้าวัดแจ้ง หวังนำเงินไปใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล ล่าสุดวันนี้ 1 เมษายน 2568 ทางทีมข่าวได้มีการลงพื้นที่ไปพูดคุยกับคุณลงคุณป้าทั้งสองคน ทราบชื่อคุณป้า น.ส. นางสาวกรุณา กลิปกาญจน์ อายุ74 อดีตพนักงานธนาคาร ส่วนคุณลุงผู้เป็นน้องชาย ชื่อ นาย นิพนธ์ กปิลกาญจน์ อายุ 68 ปี เป็นอดีตข้าราชการบำนาญ อาจารย์สอนสถาปัต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย โดยคุณลงกับคุณป้าทั้งสองครเป็นพี่น้องกัน หลังจากเกษียรอายุก็เริ่มมาทำขนมขายเพื่อประทังชีพและใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลของคุณป้าที่ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ โดยคุณลุงเล่าว่า เมื่อก่อนตนได้เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มทร.ศรีวิชัย ต่อมาก็ได้เกษียรอายุราชการ ซึ่งตอนนี้ทางด้านมหาลัยก็คงจะสงสารและเห็นว่าเรายังสอนได้อยู่ ก็มีให้ไปช่วยสอนอาทิตย์ละ 1 วัน ต่อมาประมาณปี2553 คุณป้าที่ขณะนั้นยังทำงานธนาคารอยู่ได้เริ่มมีอาการถ่ายออกมาเป็นเลือด คุณลุงก็เลยพาพี่สาวไปตรวจที่โรงพยาบาลหลังจากมีการส่องกล้อง ก็ทราบว่าพี่สาวมีก้อนที่ลำไส้เป็นมะเร็งระยะที่ 4 หลังจากนั้นจึงมีการนัดผ่าตัดหลังเสร็จก็มีการให้คีโมมาตลอดจนอาการดีขึ้น หลังจากนั้นประมาณ 2 ปี หลังจากพี่สาวเกษียณแล้วก็มีการพบก้อนมะเร็งอีกซึ่งเกิดขึ้นที่ตับและก็ได้ผ่าตัดไปอีกครั้ง เมื่อถึงขั้นตอนของการให้คีโม ก็ต้องใช้จ่ายในการทำคีโมครั้งละ 26,000 บาท และพี่สาวต้องทำคีโม 10 ครั้ง ซึ่งตอนนั้นต้องใช้เงินเยอะมากซึ่งพี่สาวก็ได้เกษียณแล้วจึงไม่มีรายได้จากการทำงานเลย ซึ่งภายหลังจากผ่าตัดขอบตับไปแล้วไม่นานก็กลับมาซ้ำอีกครั้ง ทางทางด้านคุณหมอไม่แนะนำให้ผ่าตัดเพราะเห็นว่าอายุมากแล้วไม่นำนำให้ผ่าตัดหลายครั้งติดๆกัน จึงใช้วิธีนำเข็มความร้อนเจาะเข้าไปบริเวณก้อนเนื้อให้เหี่ยวแต่ปรากฎว่าไปโดนเส้นเลือดใหญ่บริเวณตับจนปูดออกมาถ้าไม่ผ่าตัดเอาออกพี่สาวอาจไม่รอดจึงต้องผ่าตัดอีกครั้งหลังจากนั้นก็ให้คีโมมาตลอด ซึ่งคุณลุงจึงจำเป็นต้องขายบ้านที่อยู่แถวย่านถนนนางงามเพื่อนำเงินมารักษาค่าพยาบาล ซึ่งรายได้ก็เริ่มไม่มีมีแต่รายจ่ายเข้ามาตลอด คุณลุงจึงเริ่มคิดทำขนมขายวึ่งทำขายมาหลากหลายทั้งขนมชั้น ขนมท้องม้วน แต่มาประสบความสำเร็จจากขนมปำซึ่งมีคนติดใจในรสชาติ คุณลุงจึงทำขนมปำขายมาตลอดตั้งแต่ปี2562 แต่เมื่อก่อนจะเป็นการฝากร้านขายซึ่งร้านจะรับไว้ในราคากล่องละ 15 บาท ต่อมาลุงจึงเห็นว่าไม่พอใช้จ่ายจึงเริ่มแบ่งบางส่วนมาขายเองเพราะจะได้รับเต็มจำนวนในราคากล่องละ 20 บาทบ างวันขายหมดบางวันก็เหลือก็นำมาแจกบ้าง ซึ่งรายได้ทั้งหมดก็มาจากการขายขนมทั้งหมด เพราะพี่สาวก็ไม่มีรายได้มีเพียงบัตรผู้สูงอายุที่ได้เดือนละ 700 ส่วนตนก็มีได้ค่าสอนมาเล็กน้อย ส่วนทางด้านคุณป้า เล่าว่า ตอนนั้นตนอายุ 59 ปีอีกไม่นานก็กำลังจะเกษีญณอายุ หลังจากถ่ายเป็นเลือดก็ได้เข้าไปหาหมอก็ทราบว่าตนป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ตนก็สู้และพยายามรักษามาตลอดจนตอนนี้อาการดีขึ้น แต่บางครั้งถ้ามีอาการปวดท้องก็ต้องไปตรวจอยู่ตลอด ซึ่งหมอก็มีการตรวจผลเลือดติดตามอาการตลอดก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดีแต่บอกแน่นอนไม่ได้ว่าอาการจะกำเริบอีกตอนไหน ก็ต้องระวังและควบคุมอาหารโดนตนเองกินแต่ปลาไม่ได้ทานเนื้อสัตว์ใดๆเลย ซึ่งตนป่วยมากตั้งแต่ปี 2553 นับรวมก็ป่วยและรักษาตัวมาตลอดกว่า 15 ปี  ทางด้านคุณลุงเผยว่า ที่คุณลุงได้มีการโพสต์ข้อความไปไม่ได้ตั้งใจต้องการเปิดรับบริจาค เพียงแต่อยากให้คนที่ผ่านไปมาช่วยแวะอุดหนุนขนมหน่อยเท่านั้น ซึ่งเมื่อคนโอนเงินช่วยเหลือเข้ามามากคุณลุงก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงทั้งยังรู้สึกเกรงใจเพราะตนแค่ต้องการขายขนมเท่านั้น โดยตอนนี้ก็เริ่มมีคนเดินทางมาอุดหนุนเป็นจำนวนมาก บางคนก็โทรมาสั่งซื้อกว่า 100 กล่อง แต่ทางด้านคุณลุงทำไม่ทันลูกค้าบางรายจึงแจ้งให้ทำส่งวันละ10-20 กล่อง ตามจำนานที่ลุงจะทำไหว หากใครต้องการอุดหนุนก็สามารถมาซื้อได้หน้าวัดแจ้ง ตั้งแต่เวลา 06.30 -08.30 น.ของทุกวัน